เทศน์เช้า

อาสาฬหบูชา

๕ ก.ค. ๒๕๔๔

 

อาสาฬหบูชา
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

เทศน์เช้า วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๔๔
ณ วัดสันติธรรมาราม ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

ได้รับวัฒนธรรม ได้รับมรดกมาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วันนี้วันองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเทศนาธัมมจักฯ นะ คือการประกาศธรรม แล้วการประกาศธรรมตั้งแต่วันนั้นมา แล้วก็มีพระอัญญาโกณฑัญญะเป็นสงฆ์องค์แรกของโลก เป็นผู้ที่รู้ธรรมตามไง

นี่ตระกูลของพระตั้งแต่ตรงนั้นนะ ศากยบุตรตั้งแต่ครั้งพุทธกาลจนป่านนี้ พระสงฆ์สืบต่อมาตลอดเวลา แล้วสืบต่อมาโดยเราได้รับผลบุญอันนี้ไง เราได้ฟังเรื่องของธรรม ธรรมะคือเรื่องของนามธรรม ธรรมะ เห็นไหม ความเห็นแก่ตัวนี่เป็นกิเลส ความสละออกไป เราสละออกไป เราจาคะออกไปนี่เป็นบุญกุศล

ถ้าเป็นบุญกุศล เราเห็นว่ามันจะไม่เป็นประโยชน์กับเรา เราเป็นชาวพุทธ เห็นไหม ประเทศชาติร่มเย็นเป็นสุข เขาเกิดวิกฤติการณ์ขนาดไหน ประเทศของเราก็ยังพอเป็นไปได้เพราะอะไร?

เพราะว่ามีศาสนานี่เป็นพื้นฐาน มีศาสนานี่ เวลาไม่มีภัยขึ้นมา มันก็เห็นแก่ตัว มันก็มีการเบียดเบียนกัน แต่เวลามีภัยขึ้นมา มันจะให้เรามีความสุข ให้เราพอพึ่งพาอาศัยกันได้ไง มีจาคะ มีทานขึ้นมา

นี่มรดกวัฒนธรรมมาอย่างนี้ พระพุทธเจ้าสอน เห็นไหม พระพุทธเจ้าทำเป็นตัวอย่าง เป็นพระเวสสันดรสละทั้งหมด สละทั้งลูกทั้งเมีย สละทุกอย่างเลยเพื่ออะไร? เพื่อแสวงหาโมกขธรรม เพื่อความสุขของใจ

ไอ้เรานี่ เราสละกันอยู่อย่างนี้ มันเป็นภาระ เห็นไหม เราว่าเราจะไปวัดหรือเราต้องหาเงินหาทองก่อน...

ไม่ต้องมีก็ได้...มีนี่มันเป็น...สายไฟฟ้า เห็นไหม ไฟฟ้าจะได้มันสื่อสายไฟไป อันนี้ทานมันสื่อออกมาเป็นอามิสทาน แต่ถ้าเราไม่มี เราเอาหัวใจมา เราอนุโมทนาไปกับเขาก็ได้ มันไม่จำเป็นว่าเราจะต้องแบกหามมาหามา เราถึงจะทำบุญทำทานได้ บุญกุศลถ้าคนฉลาดนะ

เรามองกันเองว่าทางยุโรปเจริญ ทางยุโรปเจริญเขาเจริญด้วยวัตถุนะ แต่หัวใจเขาว้าเหว่ ไอ้เรานี่พูดถึงอยู่ทางเอเชียทางตะวันออกนี่ ความเจริญของวัตถุจะสู้เขาไม่ได้ แต่เรื่องความเด่นของเราคือเรื่องของหัวใจ เรื่องของนามธรรมนี่เด่นกว่าเขา แต่เราก็ว่าเราเบียดเบียนกัน

เวลาเราอยู่ในเมืองไทยของเรา เราเห็นสภาพแบบนั้นเอง เราว่ามันเบียดเบียนกัน คนไทยไม่เหมือนกับทางยุโรป ทางยุโรปเขามันเป็นการบังคับไง ภูมิประเทศเขาบังคับ เขาต้องให้เขาขยันหมั่นเพียร เวลามาหาเรานี่ เกิดในประเทศอันสมควร เห็นไหม ฤดูกาล ขนาดไหนก็อยู่ได้ ถ้าหน้าหนาวของเขา เขาอยู่ของเขาไม่ได้ เขาต้องหาที่อยู่อาศัย ของเราจะอยู่อย่างไรก็อยู่ได้ ฤดูกาล ประเทศอันสมควรหนึ่ง แล้วยังเจอศาสนาอีก

ในศาสนานี่สอนเรื่องความสุขความทุกข์ขึ้นในหัวใจ เวลาเราความสุขความทุกข์ในหัวใจ เราบอกว่าไม่ต้องให้สอน เราก็รู้ความสุขความทุกข์ในหัวใจ แต่เวลามันทุกข์ในหัวใจจริงๆ ขึ้นมา มันอัดอั้นตันใจไว้ ความอัดอั้นตันไว้ในหัวใจ ความทุกข์ในใจนะบอกใครไม่ได้ แล้วก็เก็บกดไว้ในหัวใจ พระพุทธเจ้าให้ระบายอันนี้ออกมาได้ไง มันจะระบายออกมาทางไหน ระบายความทุกข์ออกไป

ทานก่อน มีทาน มีศีล มีภาวนา มีทานขึ้นมา ฟังธรรมขึ้นมา ถ้ามีการถือศีลมันบังคับใจขึ้นมา อย่างนี้มันผิดศีล มันผิดความคิดของเรา ผิดความตั้งใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นี่มันก็เริ่มเข้ามา เห็นไหม เริ่มทำใจของเราให้ได้ พระพุทธเจ้าถึงบอกว่า “บุญกุศลมันถึงเป็นเครื่องอาศัยของใจ บุญกุศลเป็นอาหารของใจ ใจเรากินบุญกุศลเป็นอาหาร”

เราเกิดมานี้เราจะทำบุญกุศล สิ่งที่เราสละออกไปนี่เป็นของเราทั้งหมด เราสละออกไปเดี๋ยวนี้ วันไหนถ้าเราได้สละออกไปเป็นของของเราเพราะอะไร? เพราะใจมันเห็นไง ใจมันเป็นคนคิดก่อนใช่ไหม? ก่อนที่เราจะสละ มันต้องไปเกิดความคิดของเราขึ้นมาก่อน กรรมนี่มันเกิดจากความคิดของเราขึ้นมาก่อน แล้วเราสละทานของเราออกไป

พอสละทานออกไป สิ่งที่เป็นทานออกไปใจมันซับไว้ทั้งหมดๆ ทีนี้ไอ้ตัวเป็นอามิสมันเป็นตัวสื่อให้ใจได้สละออกไป พอสละออกไป คิดถึงบุญสิ เราคิดถึงย้อนกลับไปตั้งแต่ปีที่แล้ว เมื่อหลายๆ ปีที่แล้ว เราคิดถึงบุญของเรา เห็นไหม อาหารที่เราใส่บาตรไปมันก็ยังไม่บูดไม่เสียไม่เน่าอยู่อย่างนั้น เพราะเรานึกถึง เราเห็นภาพนั้นเลย เราจำของเราได้

อันนี้ก็เหมือนกัน เราสละออกไปเดี๋ยวนี้มันก็จะเป็นบุญกุศลของเรา มันซับไป ทำจนเคยชิน เห็นไหม คนเราไม่เคยชิน เราทำนานๆ ครั้ง เราทำลำบากทำยาก ทำจนเคยชิน ความเคยชินของเรา ความเคยชิน เห็นไหม ถ้าความเคยชินมันทำจนเคยชิน ใจนี่มันมีพื้นฐานเลย ใจมีความเคยชินอย่างนั้น ใจเรามันไม่ต้องรักษา

เวลาเราออกจากบ้านไป เราแต่งชุดอะไรออกจากบ้านไป?

เราแต่งชุดออกจากบ้านไป เราก็เป็นคนๆ นั้น เห็นไหม เราเป็นราชการ เราแต่งชุดราชการออกไปก็เป็นคนนั้นไป ถ้าเราแต่งอย่างไรออกจากบ้านไป อันนี้ก็เหมือนกัน หัวใจมันจะสละร่างออกไป ถ้าใจมันไม่ปกติ มันอยู่ที่ว่ามันจะเสวยอารมณ์อะไรออกไป?

ถ้าเราฝึกใจเราจนเป็นพื้นฐาน พื้นฐานของใจ จะไปตอนไหนมันอิ่มเต็มไปตลอดเวลา

นี่บุญอันนี้มันทำให้เกิดดี อารมณ์ที่ความไม่ดีในหัวใจมันสละออกไปได้ มันสละออกไปจากใจ มันเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของตัวเองได้ไง มันควบคุมตัวเองได้ มันควบคุมความคิดของเราได้

ฟังสิ! แต่เดิมความทุกข์เกิดขึ้นมาในหัวใจ เราไม่สามารถปฏิเสธได้ เราไม่สามารถเห็นได้ แล้วเราไม่สามารถจับต้องได้ เรามีแต่โดนความทุกข์อันนี้บีบคั้นไป แล้วเราก็ยอมรับสภาวะ ยอมจำนนไปกับความทุกข์อันนั้น เพราะอะไร?

เพราะเราไม่มีกระแสต่อต้าน ไม่มีธรรมในหัวใจเลย ถ้าเรามีธรรมในหัวใจ เราสะสมขึ้นมาอย่างนี้ พอมันเกิดขึ้นมาเราก็รู้นี่นา อารมณ์อย่างนี้ให้ผลเป็นความทุกข์ ความคิดอย่างนี้ให้ผลเป็นความทุกข์ทุกทีเลยๆ คิดอย่างนี้ให้ทุกข์ทุกทีเลย ทำไมหักห้ามไม่ได้?

พอหักห้ามไม่ได้ เราก็พยายามทำนะ มีบุญกุศลอันนี้ ถ้ามันพยายามพัฒนาใจขึ้นมา วุฒิภาวะของใจมันสูงขึ้นไง มันสูงขึ้น มันเลือกกินได้

อารมณ์ที่มานี่เหมือนแขกจรมา เราอยู่ในบ้านนะ คนเข้ามาหาเราในบ้าน เราเห็นใช่ไหม? คนเข้ามาหาในบ้าน คนนั้นมาดีหรือมาไม่ดี เราก็ป้องกันได้ ใจก็เหมือนกัน ปกติของใจ มีศีลมีธรรมจิตมันปกติ ความคิดจะเกิดขึ้น แขกมันจรมา ความคิดจะเกิดขึ้นมาจากหัวใจ นั่นน่ะแขกมันมาแล้วนะ แล้วเราจะรับหรือไม่รับแขก ถ้าแขกมาดี อารมณ์ความคิดดี เห็นไหม เราใส่คันเร่งเข้าไปเลย ถ้าความคิดอันนี้มันมามันไม่ดี เราไม่รับแขก เราปฏิเสธได้

แต่เดิมต้องยอมจำนนกับความคิดของเราเอง ความคิดอะไรคือเกิดขึ้นมาแล้วก็ลากถูลากไถให้หัวใจนี้มันมีความเจ็บปวดแสบร้อนของมันไป เราปฏิเสธไม่ได้เลย แต่พอเราทำทานขึ้นมา เราพยายามฝึกฝนขึ้นมา เราฟังธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เห็นไหม ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระจะพูดขนาดไหนนะ ไม่พ้นไปจากที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพูดไว้ทั้งนั้น สื่อธรรมนี่สื่อธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมด

แล้วเราเพียงแต่ว่าศาสนานี้เป็นศาสนาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใช่ไหม? สาวกะ สาวกผู้สืบต่อ เห็นไหม สืบต่อตั้งแต่วันที่พระพุทธเจ้าประกาศธรรม อัญญาโกณฑัญญะรู้ธรรม จนเดี๋ยวนี้พระสงฆ์ก็ยังมีอยู่ แล้วเราเกิดในประเทศที่มีพระสงฆ์ เราได้ทำบุญกุศล เห็นไหม ถ้าเราไปเกิดในประเทศที่ไม่มีพระสงฆ์...

เห็นไหม ให้ทาน ทานกับบุญต่างกัน ทานให้ผู้ที่ไม่มีศีล ผู้ที่ไม่ประพฤติปฏิบัติ บุญกุศลให้กับผู้ที่มีศีล ผู้ที่ทรงธรรม ถ้าให้ธรรมอันนั้น มันเห็นไหม เขตเนื้อนาบุญของโลก ว่าเนื้อนาบุญของโลก ให้บุญอันนั้นขึ้นมา มันก็เป็นบุญของเราขึ้นมา

เราเกิดในประเทศอันสมควร เราถึงมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ในหัวใจของเรา รัตนตรัยเกิดขึ้นมาพร้อมวันนี้ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม รู้ธรรมขึ้นมา มีพระพุทธเจ้ากับธรรมะ พระอัญญาโกณฑัญญะรู้ธรรมขึ้นมานี่เป็นแก้วสารพัดนึก แล้วเราไม่มีแก้วสารพัดนึกในหัวใจของเรา เห็นไหม แก้วสารพัดนึกเราสร้างขึ้นมาในใจของเรา ถ้าเราทำแก้วสารพัดนึก

“ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต”

เห็นธรรมนะ เห็นความสงบของใจ เห็นความสุขของใจ ความสุขของใจนี่มันก็เหมือนกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ตรัสรู้ธรรมอันนี้ แล้วเราเข้าถึงธรรมอันนี้ ทำไมเราจะไม่รู้ เห็นธรรมด้วยสัจจะความจริงอย่างหนึ่ง เห็นธรรมด้วยเห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยนั่นเป็นอภิญญาที่คนเขาเห็นด้วยตาที่เป็นหัวใจ อันนั้นก็เป็นไปได้ เป็นไปได้ทั้งนั้น อยู่ที่บุญบารมีของแต่ละบุคคลสร้างมา

ลูกของเราเกิดมาสามสี่คน เห็นไหม นิสัยใจคอลูกเราทำไมไม่เหมือนกัน? เกิดจากพ่อแม่คู่เดียวกัน ทำไมลูกออกมานิสัยไม่เหมือนกัน? เพราะใจของเขาสะสมบุญกุศลมาต่างกัน

นี่ไง มาประพฤติปฏิบัติก็เหมือนกัน ใจนี่มาประพฤติปฏิบัติ ความเห็นของใจมันถึงแตกต่างกัน ความแตกต่างของใจอันนั้น นี่บุญกุศลสะสมมาๆ ต่างกัน ผู้ที่ประพฤติปฏิบัติก็เหมือนกัน ความเห็นตถาคต เห็นด้วยสัจจะเห็นด้วยความจริงไง พระพุทธเจ้าเห็นอย่างนี้ เราก็เห็นอย่างนี้ นี่สุกขวิปัสสโก เห็นด้วยความอย่างนั้น แต่ผู้ที่มีอภิญญาจะเห็นจะรู้ตามไปหมดเลย อันนั้นเป็นบุญกุศลของเขา

บุญกุศลเกิดจากตรงไหน?

เกิดจากการเราสละทานนี่แหละ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรารถนาพุทธภูมิแล้วก็สละทานมาอย่างนี้ สร้างบุญสร้างกุศลช่วยเหลือสังคมมา ช่วยเหลือทุกๆ อย่าง สะสมจนเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ตรัสรู้เองแล้วมีความสุขมาก เห็นไหม ไปโปรดเทวดาลงมาจากดาวดึงส์นะ เปิดโลกธาตุทั้งหมดเลย เทวดา สวรรค์ นรก เห็นเหมือนกันหมด

แล้วผู้ที่เห็นในสังกัสนครนั้นนะปรารถนาพุทธภูมิ ปรารถนาพุทธภูมิหมด แล้วมีคนทำได้คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น สาวกะ สาวกผู้ได้ยินได้ฟังมา เห็นไหม ความที่เป็นความบริสุทธิ์ของใจ ดวงใจของเราในทุกดวงใจทุกข์ไหม? ทุกคนบอกว่าทุกข์ แล้วมันกำจัดทุกข์ในหัวใจได้ด้วยสัจจะความจริงที่ทำได้ แล้วใจดวงนี้สามารถเข้าถึงที่สุดของทุกข์ได้ เข้าถึงธรรมได้ ดวงใจทุกคน

แต่เราอ่อนเนื้ออ่อนใจกันไง พอบอกถึงนิพพานนี่ทุกคนบอก อู้ฮู... มันไกลสุดเอื้อมมือคว้า มันไกลไปหมด...

แล้วเวลาเราหิวข้าว เราไม่กินข้าวล่ะ? ทำไมมันต้องกินข้าวเหรอ? เราหิวข้าวทำไมเราต้องกินข้าว? เพราะอะไร? เพราะประทังความหิว หัวใจเป็นทุกข์ทำไมเราไม่สามารถกำจัดทุกข์ออกไปจากใจได้ล่ะ?

มันสามารถทำได้ แต่ถ้าเราอ่อนใจอ่อนแรงกัน เราไม่กล้าทำกัน ทั้งๆ ที่มีวัตถุดิบในหัวใจของเรานี่ ถ้าหัวใจอันนี้มันสร้างสม มันพลิกมาเป็นธรรมได้ มันพลิกได้ พลิกได้ด้วยสัจธรรมความจริงขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ตรัสรู้นั่นไง

ธัมมจักกัปปวัตตนสูตรนะ “เทฺวเม ภิกฺขเว” ทางสองส่วนที่ไม่ควรเสพ เห็นไหม ความสุขที่ว่าเราหมกมุ่นในความสุขที่ว่าโลกนี่เป็นความสุข ความสุขเราหมกมุ่นนะไม่สมควรเลย การปฏิบัติที่เขาปฏิบัติกันมาแต่เก่าแต่ดั้งเดิม ปฏิบัติ เห็นไหม ทรมานตนทรมานทุกอย่าง อันนั้นก็ไม่ใช่ทาง เห็นไหม มัชฌิมาปฏิปทา การประพฤติปฏิบัติดัดตนออกมาจากโลกส่วนหนึ่ง ไม่ให้อยู่ในวังวนของโลก แล้วใจนี่มันลงส่วนกลาง เห็นไหม ส่วนกลางว่ามันประพฤติปฏิบัติใจ

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอดอาหาร ๔๙ วันไม่ได้ผล พอไม่ได้ผลออกมาฉันอาหาร เห็นไหม ปัญจวัคคีย์ทิ้งหมดเลย ว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี่กลับมามักมาก พอทิ้งออกไป ร่างกายฟื้นมา เห็นไหม จากทำอัตตกิลมถานุโยคกลับมาเป็นมัชฌิมาปฏิปทา ทำใจของตนพอดีสมควรแก่ใจ ใจนั้นสำเร็จไปได้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม แก้ไขกิเลสของใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปได้ แล้วก็วางธรรม ธรรมคือวิธีการ คือวิชาการที่เราสามารถจะสืบต่อได้ไง แล้วมีอยู่

เราเกิดมามีบุญวาสนามาก เกิดมาพบทุกอย่างสมบูรณ์พูนผลในการประพฤติปฏิบัตินะ แต่เราไพล่ไปมองกันว่าเวลาเรามองเรามองแต่ว่าความเจริญของโลก เราไม่ได้มองความเจริญของหัวใจ ถ้าหัวใจมันเจริญ เห็นไหม มันมีความสุขขึ้นมา จะมั่งมีศรีสุข จะทุกข์จนขนาดไหน ทำไมพระอยู่ในป่ามีผ้า ๓ ผืนเท่านั้น ทำไมมีความสุขในหัวใจ บอกว่า “พอๆ มีความสุขในหัวใจ ไม่ต้องอาศัยอย่างอื่นมาเป็นความสุข”

ความสุขในใจพอใจแล้ว พออยู่ในตัวของมันเอง แล้วเราแสวงหาอะไร?

เราแสวงหาโลก แสวงหาสมบัติก็เป็นสมบัติ ถ้าเราแสวงหาใจก็ได้ใจ แสวงหาธรรมในหัวใจจะได้ธรรมในหัวใจของเรา แล้วเรามีหัวใจอยู่แล้วแต่ไม่แสวงหา ไม่เอาธรรมอันนี้เข้ามาในหัวใจของเรา เรานี่สบประมาทตัวเอง เราไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง เราจะไม่ได้คุณค่าของตัวเอง

วันนี้วันรัตนตรัยนะ วันเกิดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พร้อมสมบูรณ์ เราชาวพุทธทำบุญกุศลเพื่ออะไร? เพื่อระลึกถึงวันนั้นไง เป็นคุณประโยชน์เพราะเราถึงนั้น เราถึงได้อยู่ในสังคมอันร่มเย็นเป็นสุข ได้อยู่ในหมู่คณะที่มีความสมบูรณ์ของเรา แล้วเราจะทำบุญกุศลเพื่ออุทิศส่วนนั้น แล้วเราจะได้บุญกุศลต่อๆ กันไป เอวัง